นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 2553 - 2557(PDP 2010) ได้จัดทำพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า(Load Forecast)ใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ไปศึกษารายละเอียด
ทั้งนี้ได้มีการปรับลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในอีก 20 ปีข้างหน้าให้เหลือ 40% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนสูงถึง 70% ปรับพลังงานน้ำและการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเป็น 20% พลังงานทดแทน 5% พลังงานนิวเคลียร์ 10% หรือไม่เกิน 5,000 เมกกะวัตต์ ส่วนที่เหลือเป็นถ่านหินและเชื้อเพลิงชนิดอื่น เพื่อเป็นการกระจายการใช้เชื้อเพลิงให้มีความสมดุล และสร้างความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้า
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อเดินเครื่องในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(peak)เท่านั้น เนื่องจากมีราคาต้นทุนการก่อสร้างถูกกว่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าราคาค่าไฟฟ้าจะสูงกว่าราคาค่าไฟฟ้าปกติประมาณ 2-3 เท่าตัว โดยจะมีการก่อสร้างประมาณ 4 โรง กำลังการผลิตไฟฟ้าโรงละ 250 เมกกะวัตต์ ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพื่อใช้เป็นโรงไฟฟ้าสำรองสำหรับเดินเครื่องในช่วง peak เท่านั้น
ส่วนสำรองปริมาณไฟฟ้าในระบบทั้งแผนจะอยู่ประมาณ 15% ของปริมาณไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเป็นอัตราที่ปลอดภัยและมีความมั่นคง สามรถป้องกันปัญหาไฟตก ไฟดับได้
อย่างไรก็ดี วันที่ 8 มี.ค.จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 2553 -2557 หรือ PDP 2010 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ