ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเงินของกรีซ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 90.350 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 89.070 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0741 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0767 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรดีดขึ้น 0.29% แตะที่ 1.3619 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3579 ยูโร/ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.74% แตะที่ 1.5142 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5031 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.82% แตะที่ 0.9079 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9005 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 1.50% แตะที่ 0.6969 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6866 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 36,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.พ.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.7% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มฟื้นตัวแล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า สินเชื่อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.96 พันล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2552