สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.ลดลง 6.6% หลังยอดนำเข้าน้ำมัน-รถยนต์ตปท.หดตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday March 12, 2010 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.ปรับตัวลดลง 6.6% สู่ระดับ 3.73 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้าน้ำมันและรถยนต์จากต่างประเทศร่วงลงอย่างหนัก

ยอดส่งออกเดือนม.ค.ของสหรัฐขยับลง 0.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ยอดขายสินค้าปรับตัวลดลงในวงกว้าง ตั้งแต่ยอดขายเครื่องบินพลเรือน เครื่องจักร ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ยอดนำเข้าเดือนม.ค.ร่วงลงอย่างหนัก 1.7% เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันและรถยนต์จากต่างประเทศทรุดฮวบลง

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขาดดุลการค้าตลอดปี 2553 ของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสหรัฐสั่งซื้อสินค้านำเข้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวเนื่องจากยอดส่งออกที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มผู้ผลิตชาวอเมริกันได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆ และสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยให้สินค้าของสหรัฐมีราคาถูกลงในตลาดต่างประเทศ

คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดหวังว่าอุ ตสาหกรรมส่งออกของสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหยวนของจีน โดยที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐพยายามกดดันให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน หลังจากกลุ่มผู้ผลิตของสหรัฐร้องเรียนว่าเงินหยวนของจีนมีมูลค่าต่ำเกินจริง ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ส่งออกของจีนมีข้อได้เปรียบด้านการค้าในตลาดโลก

ทั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนในเดือนม.ค.มากขึ้น 0.9% แตะที่ 1.83 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ยอดนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนก็ตาม นอกจากนี้ สหรัฐขาดดุลการค้ากับสหภาพยุโรปลดลง 56.3% แตะที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ