ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ขยายตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า จีนจะเพิ่มความเข้มงวดด้านนโยบายการเงิน โดยมีผู้เชี่ยวชาญออกมาคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นอัตราการกันสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์อีกเป็นครั้งที่ 3 ในเร็วๆนี้ แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยดัชนี CPI เดือนก.พ.ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยราคาอาหารเดือนก.พ.สูงขึ้น 6.2% ส่วนราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารสูงขึ้น 1% จากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ตัวเลข CPI เดือนก.พ.ยังสูงกว่าตัวเลขเดือนม.ค. 1.2% โดยดัชนี CPI ของจีนเริ่มขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งขยายตัวขึ้น 0.6%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮา จือหมิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจัยที่ผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง แต่การขยายตัวของเงินเฟ้อจีนก็เป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลคงจะใช้เครื่องมือเชิงปริมาณเพื่อควบคุมเศรษฐกิจต่อไป เช่น เงินกู้ ตราสารหนี้ และอัตรากันสำรองเงินฝาก
โดยเมื่อพิจารณาจากพันธบัตรที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.และเม.ย.นี้ รวมทั้งสำรองเงินตราต่างประเทศที่อาจจะสูงขึ้นอีก ด้วยเหตุนี้ธนาคารกลางจีนจึงอาจจะขึ้นอัตราการกันสำรองในเดือนนี้
ทางด้านศูนย์วิจัยการเงินของแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นอัตราการกันสำรองเงินฝากอีก 0.5-1% ในปีนี้
ทางด้านหวัง ฉิง นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะขึ้นอัตราการกันสำรองเร็วๆนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่า จีนคงยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ หลังจากการขึ้นอัตราการกันสำรอง โดยนายหวังคาดว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือนเม.ย.
ส่วนหลู เจิงเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของอินดัสเทรียล แบงค์ คาดการณ์ว่า จีนจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ โดยอาจจะเป็นช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.