ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 12.85 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 10,624.69 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.25 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 1,149.99 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 0.80 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 2,367.66 จุด
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สวนทางกัน ส่งผลให้นักลงทุนไม่สามารถคาดเดาแนวโน้มดีมานด์พลังงานได้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 81.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.57-83.16 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) เนื่องจากเงินยูโรที่แข็งค่าทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จึงตัดสินใจเทขายทองคำและกลับไปลงทุนในสกุลเงินแทน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วง 6.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,101.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 1,097.30-1,119.50 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) หลังจากที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหนี้สินของประเทศกรีซ ขณะที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกัน
ค่าเงินยูโรแข็งค่าแตะ 1.3760 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3659 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนยังทรงตัวที่ระดับ 90.510 เยน/ดอลลาร์
ด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 1.0586 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0684 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ และอ่อนค่าลงแตะ 1.5192 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5060 ดอลลาร์/ปอนด์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) โดยการนำของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และเทเลคอม เนื่องจากตลาดยังขาดข้อมูลทางเศรษฐกิจหรือตัวเลขผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดให้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวสูงขึ้น 8.39 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 5,625.65 จุด ส่งผลให้ทั้งสัปดาห์ตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.5%