นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวยืนยันในระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า จีนไม่ให้ความสนใจต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน พร้อมกับเตือนว่าการที่สหรัฐกดดันจีนในเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัตของสหรัฐและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า ท่าทีอันแข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรีจีนอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
"ผมไม่คิดว่าเงินหยวนมีมูลค่าต่ำเกินจริงตามที่สหรัฐและบางประเทศกล่าวอ้าง ผมยืนยันว่าจีนจะไม่ยอมทำตามแรงกดดันที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน" นายเหวินกล่าว
นอกจากนี้ นายเหวินยังเรียกร้องให้สหรัฐหันมากอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐ รวมถึงวุฒิสมาชิกชาร์ลส์ ชูเมอร์ กำลังเคลื่อนไหวต่อต้านจีนที่ตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนไว้ที่ระดับต่ำเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ส่งออกของจีนให้มีข้อได้เปรียบด้านการค้าในตลาดโลก พร้อมกับเสนอให้สภาคองเกรสสหรัฐโต้ตอบจีนด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพื่อชดเชยกับความเสียหายที่สหรัฐได้รับจากการถูกเอาเปรียบในตลาดการค้าโลก
พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า หากจีนตัดสินใจปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่า ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจทั่วโลกจะขยายตัว 1.5% นอกจากนี้ ครุกแมนกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะได้ประโยชน์หากจีนนำสกุลเงินดอลลาร์ในคลังสำรองออกมาลงทุนบ้าง โดยขณะนี้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนมีอยู่สูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์