ธนาคารกลางออสเตรเลียชี้แจงถึงเหตุผลการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อ หลังจากที่เศรษฐกิจในประเทศรอดพ้นจากภาวะถดถอยและขยายตัวได้ดีขึ้น โดยธนาคารกลางมองว่า ความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจมากกว่าความวิตกกังวลถึงหนี้สาธารณะที่กำลังจุดชนวนความวุ่นวายในตลาดเงินให้เกิดขึ้นอีกระลอกในขณะนี้
รายงานหลังการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโนบายของธนาคารกลางต้องตัดสินใจใช้นโยบายการเงินด้วยความระมัดระวังโดยคำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก
นายเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่มจี-20 ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากมีการลงทุนในธุรกิจเหมืองและการริเริ่มโครงการด้านทรัพยากรธรรมชาติแห่งใหม่ๆมากขึ้น โดยล่าสุดธนาคารได้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะขยายตัว
นอกจากนี้ อัตราว่างงานของออสเตรเลียในเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 5.3% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของอัตราว่างงานในยุโรป ซึ่งจากสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวกทำให้เทรดเดอร์คาดว่า มีความเป็นไปได้ราว 30% ที่ธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า
ทั้งนี้ หลังจากที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานแถลงการณ์หลังการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันนี้ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเคลื่อนไหวแตะที่ระดับ 91.28 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 91.38 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปีลดลง 0.01% สู่ระดับ 4.88%