นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิต และภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุนเอฟทีเอ ) ได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ ได้แก่ สินค้านมโคสด 100% บริการโลจิสติกส์ และบริการท่องเที่ยว รวมวงเงิน 25.31 ล้านบาท มั่นใจว่าหลังจากได้รับความช่วยเหลือจะทำให้อุตสาหกรรมเหล่านี้แข่งขันได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าต่างๆ ที่เสนอขอใช้เงินกองทุนอีก 6 โครงการ ได้แก่ สินค้าสับปะรด กาแฟอราบิก้า ผ้าไหม ไวน์ ข้าวอินทรีย์ และข้าวกล้อง
"ใครก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในภาคอุตสาหกรรม หรือภาคบริการ จะเป็นเกษตรกร หรือผู้ประกอบการ หากได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า และต้องการได้รับความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัว เพื่อพัฒนาศักยภาพให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้ สามารถทำโครงการเสนอขอใช้เงินกองทุนเข้ามาได้ กระทรวงพร้อมพิจารณาความช่วยเหลือให้ทันที"นายวิจักรกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 50-52 กองทุนเอฟทีเอ ได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 18 โครงการ วงเงิน 139 ล้านบาท โดยในปี 50-51 อนุมัติความช่วยเหลือและดำเนินโครงการเสร็จสิ้นแล้ว 9 โครงการ วงเงิน 45.29 ล้านบาท ได้แก่ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนังไทย ปลาป่น ส้ม โคเนื้อ 2 โครงการ ปลาน้ำจืด ยา 2 โครงการ และปี 52 ได้อนุมัติความช่วยเหลือและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ 9 โครงการ วงเงิน 93.71 ล้านบาท ได้แก่ สมุนไพร ชา ปลาป่น ลิ้นจี่ ส้ม โคเนื้อ ยา การบริการอาหาร และอาหารโคนม