ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียประจำปีนี้ จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 6.6% เนื่องจากบรรยากาศการค้าทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างคำกล่าวของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานของเอดีบีว่า "เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงนี้จะเห็นว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราจึงคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2553 จะขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้"
ทั้งนี้ คุโรดะกล่าวว่า ในการเปิดเผยรายงานแนวโน้มการขยายตัวของเอเชียในเดือนเม.ย. ธนาคารอาจต้องทบทวนคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียในเชิงบวก ซึ่งในที่นี้จะไม่นับรวมญี่ปุ่นและประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆในเอเชีย
นายคุโรดะกล่าวว่า อุปสงค์จากยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องของจีนล้วนมีส่วนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้คึกคักมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะออกมาในทิศทางใดนั้นล้วนขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สินในกรีซและเงินเฟ้อในจีนอาจสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ด้านจีนและญี่ปุ่นเป็น 2 ประเทศในเอเชียที่คุโรดะแสดงความเป็นห่วง โดยเขากังวลว่า จีนอาจมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังมีความหละหลวมในการกำหนดข้อบังคับการค้ำประกันเงินกู้ ส่วนญี่ปุ่นเองก็เสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) หามาตรการสกัดกั้นช่วงขาลงของราคาสินค้ามากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เอดีบีคาดการณ์ว่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัวที่ระดับ 6.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ประเมินไว้ที่ 6.4%