สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นในปีงบการเงิน 2553 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเม.ย.นี้ จะร่วงลง 4.9% จากปีที่แล้ว แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 33 ปีที่ 4,649,600 คัน เนื่องจากนโยบายการให้เงินอุดหนุนการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงานของรัฐบาลจะหมดอายุลงในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้
"ในขณะที่นโยบายสนับสนุนรถยนต์ประหยัดพลังงานจะหมดอายุลงในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2553 เราก็คาดว่ายอดขายรถยนต์จะยังคงได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้มาตรการต่างๆ" นายซาโตชิ เอโอกิ ประธาน JAMA กล่าว โดยอ้างอิงถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ JAMA กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศในปีงบการเงินที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นั้น มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น 4.1% จากปีงบการเงิน 2551 แตะที่ระดับ 4,891,600 คัน เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวซบเซาลง แต่ดีมานด์ยานยนต์ได้รับแรงหนุนจากนโยบายลดหย่อนภาษีและการสนับสนุนการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานของรัฐบาล
นายเอโอกิ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ด้วยนั้น เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้นโยบายเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดปริวรรตเงินตรา เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้กำไรของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหดตัวลงในตลาดต่างประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า JAMA ได้แต่งตั้งนายโตชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของนิสสัน มอเตอร์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานคนต่อไปของ JAMA เนื่องจากนายเอโอกิจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนพ.ค.นี้ โดยผู้บริหารจากโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, ฮอนด้า และนิสสัน จะสลับและหมุนเวียนกันเป็นประธาน JAMA ในทุกๆสองปี