นายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคล ของเยอรมนี แสดงความต้องการให้ยูโรโซน ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 16 ประเทศ สามารถขับสมาชิกที่ละเมิดกฎออกจากกลุ่มได้ในอนาคตหากจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤต
นางแมร์เคลกล่าวต่อรัฐสภาของเยอรมนีว่า กฎระเบียบที่สหภาพยุโรป (อียู) ใช้อยู่ในเวลานี้ ไม่มีอำนาจพอที่จะจัดการกับวิกฤตที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกรีซและกำลังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจยูโรโดยรวม และเธอเห็นว่า ควรจะมีการตัดสมาชิกที่ทำผิดกฎออกจากกลุ่ม เนื่องจากเป็นมาตรการที่มีความจำเป็นเพื่อรับประกันเสถียรภาพในระยะยาวของยูโรโซน แต่ยืนยันจะพิจารณาเป็นทางเลือกสุดท้าย
นายกฯเยอรมนีกล่าวว่า ในอนาคต เราจำเป็นต้องมีข้อตกลงที่เปิดทางให้สามารถตัดประเทศหนึ่งประเทศใดออกจากกลุ่ม หากประเทศนั้นยังไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเธอกล่าวด้วยว่า การเร่งรีบให้ความช่วยเหลือกรีซอาจไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง และวิธีแก้ปัญหานี้ควรพิจารณากันในระยะยาว
"เราไม่ต้องการทางออกที่สามารถช่วยแก้ปัญหาในระยะสั้น แต่ทำให้ยูโรอ่อนแอในระยะยาว" นางแมร์เคลกล่าว "สถานการณ์ของกรีซไม่ได้เกิดจากนักเก็งกำไร เพียงแต่พวกเขาทำให้มันรุนแรงขึ้น" พร้อมกล่าวต่อไปว่า วิกฤตดังกล่าวเป็นผลมาจากการฝ่าฝืนกฎมาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินยูโรต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ก่อนหน้านี้ สื่อยุโรปคาดการณ์กันไปต่างๆนานาว่า กรีซ ซึ่งกำลังประสบภาวะหนี้สินมหาศาลถึง 12.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ จะถูกขับออกจากยูโรโซน เนื่องจากละเมิดข้อสัญญาว่าด้วยเสถียรภาพและการขยายตัว (Stability and Growth Pact) ของอียู ซึ่งกำหนดว่าหนี้ของประเทศสมาชิกจะต้องไม่เกิน 3% ของจีดีพี
อย่างไรก็ดี ผู้นำหลายประเทศในอียู ซึ่งรวมถึงนายกฯเยอรมนี ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวในภายหลัง
โดยเยอรมนี ซึ่งถูกมองว่าเป็นพลังขับเคลื่อนระบบเงินยูโร ลังเลที่จะทุ่มตัวช่วยเหลือเศรษฐกิจกรีซที่กำลังถูกปัญหาหนี้สินรุมเร้า แต่นางแมร์เคลกล่าวว่า จะไม่มีประเทศสมาชิกยูโรโซนรายใดถูกทอดทิ้งให้ต้องรับมือกับวิกฤตด้วยตัวเอง
ด้านนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ กล่าวภายหลังหารือกับนายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ว่า การที่ประเทศของเขาจะออกจากยูโรโซนนั้น มีความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์
นอกจากนี้ เขากล่าวด้วยว่า เขาหวังว่ารัฐมนตรีคลังยุโรปจะอนุมัติแผนการช่วยเหลือกรีซในการประชุมที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม นายปาปันเดรอูกล่าวว่า เขายังไม่ปิดประตูสำหรับทางเลือกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีคลังอียู 27 ประเทศตกลงกันในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ว่า จะมีการเตรียม "เงินกู้ฉุกเฉิน" เพื่อช่วยเหลือกรีซ ถ้าแผนลดงบประมาณของรัฐบาลกรีซล้มเหลว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม