นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซเร่งดำเนินการลดหนี้สิน และมีแนวโน้มว่าจะขอคำมั่นจากยุโรปในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ หลังจากที่มีบางประเทศไม่ต้องการที่จะให้เงินช่วยเหลือกรีซ ขณะที่มีเสียงเตือนว่าการให้ความช่วยเหลือกรีซอาจจะทำให้ยุโรปไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้าหมาย
กรีซจำเป็นต้องระดมทุนอีกราวครึ่งหนึ่งของพันธบัตรมูลค่า 2 หมื่นล้านยูโร หรือ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงปลายเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนอยากให้กรีซจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงกว่าของเยอรมนี 3% สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปี แต่นายกฯกรีซระบุว่า รัฐบาลยังจำเป็นต้องใช้เงินอีก 1 หมื่นล้านยูโร เพื่อนำมาชำระค่าผลตอบแทนพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 20 เม.ย.และวันที่ 19 พ.ค.
โฮลเกอร์ ชไมดิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแบงค์ ออฟ อเมริกา-เมอร์ริล ลนช์ กล่าวว่า กรีซต้องเร่งลดต้นทุนในการระดมทุนลงอย่างรวดเร็ว และหากไม่สามารถทได้ กรีซอาจจะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน
นายไมเคิล เมสเตอร์ หัวหน้าโฆษกฝ่ายการเงินของนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า กรีซควรหันไปพึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน ซึ่งความเคลื่อนไหวของเยอรมนีในครั้งนี้สะท้อนว่าเยอรมนีมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากบรรดาผู้นำยุโรป รวมถึงนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นายฌอง-คล้อด จุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก ในฐานะประธานคณะรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
การเรียกร้องของนายกฯกรีซต่อสหภาพยุโรป เพื่อขอความช่วยเหลือให้กรีซสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงนั้นไม่ได้รับการขานรับจากผู้นำบางประเทศในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า ยุโรปเองจะช่วยเหลือกรีซถ้าจำเป็น ขณะที่เมื่อวานนี้ รัฐบาลเยอรมนีได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่ช่วยเหลือกรีซ และผลักดันให้กรีซไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แทน