น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันปีนี้มีแนวโน้มจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งกระทรวงพลังงานเห็นว่าหากราคาน้ำมันดีเซลสูงกว่าลิตรละ 30 บาท รัฐบาลก็ควรจะลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง เพื่อบริหารราคาน้ำมันไม่ให้แพงเกินไป เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันมีภาระสูงมาก จึงไม่สามารถนำมาช่วยอุดหนุนตรึงน้ำมันได้อีก
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับโครงสรางภาษีรถยนต์ เพื่อส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงานทุกรูปแบบ โดยในส่วนของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเชื้อเพลิงนั้น ได้เสนอให้มีการลดภาษีนำเข้ารถยนต์นำเข้าสำเร็จรูป (CBU) ต่อเนื่องจากเดิมที่หมดเวลาลดภาษีจาก 80% เหลือ 60% สิ้นสุดเดือน ธ.ค.52 และควรลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นการถาวร
และในส่วนของการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับน้ำมัน E85 ที่ไทยยังไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนใดได้ก็ควรลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% จากปัจจุบันอยู่ในอัตรา 10-30% โดยมาตรการเหล่านี้จะช่วยทำให้มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่ายรถยนต์ เช่น วอลโว่ ตั้งเป้าหมายขายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 400 คัน มิตซูบิชิ 4,500 คัน และจีเอ็ม จะเริ่มขายไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีการใช้อี 85 เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของผู้ค้าน้ำมัน เช่น บางจาก และ ปตท.ระบุว่าพร้อมขยายปั๊ม เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น
วันนี้ รมว.พลังงานได้เป็นประธานขยายสถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 85 ของ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP)โดยขยายเป็นแห่งที่ 2 ที่สถานีบางจาก สาขาปิ่นเกล้า-นครชัยศรี 1