นางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยกับสถานีวิทยุดอยช์แลนด์ฟังค์ของเยอรมนีว่า กรีซยังไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน และผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ควรนำประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซเข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดอียูที่เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ในวันพฤหัสบดีนี้
การแสดงความคิดเห็นของนางแมร์เคลมีขึ้นหลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้เยอรมนีและรัฐบาลในกลุ่มยูโรโซนร่วมกันปล่อยวงเงินกู้เพื่อคลี่คลายปัญหาด้านการเงินให้กับกรีซ และเพื่อยุติภาวะผันผวนและกระแสคาดการณ์ในตลาดการเงินที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเตือนว่าผู้นำอียูไม่ควรหยิบยกแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซขึ้นมาเป็นประเด็นหารือในที่ประชุมสุดยอดซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองบรัสเซลล์ในวันพฤหัสบดีนี้ เพราะอาจจะทำให้เกิดกระแสการคาดการณ์ที่ไม่ถูกต้อง และที่สำคัญก็คือนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซได้กล่าวกับเธอหลายครั้งแล้วว่า กรีซจะไม่ร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากอียู
ก่อนหน้านี้ นายไมเคิล เมสเตอร์ หัวหน้าโฆษกฝ่ายการเงินของนางแมร์เคล กล่าวว่า กรีซควรหันไปพึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน ซึ่งข้อคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนว่า เยอรมนีมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากบรรดาผู้นำยุโรป รวมถึงนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป
ตัวเลขหนี้สาธารณะที่พุ่งขึ้นของกรีซส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรและยังส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลก แม้รัฐบาลกรีซออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดยอดขาดดุลงบประมาณในปีนี้ลงเหลือ 8.7% ของตัวเลขจีดีพี จากปีที่แล้วที่ 12.7% ของตัวเลขจีดีพี และจะปรับให้ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 3% ของอียูให้ได้ภายในปีพ.ศ.2555 ก็ตาม