สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงน้อยกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มสดใส อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินของกรีซอาจไม่ได้รับการคลี่คลายในที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,103.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,108-1,094 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 17.027 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.8 เซนต์ ปิดที่ 3.3805 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,608.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 464.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.95 ดอลลาร์
ในช่วงเช้านั้น สัญญาทองคำนิวยอร์กอ่อนตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สินของกรีซอาจไม่ได้รับการแก้ไขในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ เนื่องจากกลุ่มผู้นำอียูมีความคิดเห็นขัดแย้งกันในเรื่องนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยมาโดยตลอดกับการให้ความช่วยเหลือกรีซ
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ลดลงเพียง 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 5.02 ล้านยูนิต ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดิ่งลงสู่ระดับ 5.00 ล้านยูนิต ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองแท่งที่ระดับ 1,115.511 ตัน ณ วันที่ 22 มี.ค. ซึ่งทรงตัวจากระดับของวันที่ 10 มี.ค.