ประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ชี้รัฐบาลเกาหลีใต้ควรจะติดตามสถานการณ์ด้านหนี้สินของภาคครัวเรือนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพเศรษฐกิจของประเทศแบบฉับพลัน
โดยนายลีกล่าวว่า แม้ยังมีโอกาสไม่มากนักที่หนี้สินภาคครัวเรือนจะทำให้เกิดความผันผวนด้านการเงิน แต่รัฐบาลก็ควรจะจับตาเรื่องการขยายตัวของหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคครัวเรือนและวงจรทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมด้านนโยบายเศรษฐกิจฉุกเฉินว่า ขอให้มีการทบทวนแนวโน้มของราคาที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสถานภาพทางการเงินของภาคครัวเรือน
ที่ประชุมวันนี้พุ่งเป้าไปที่การทบทวนเรื่องปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนในเกาหลีใต้ เนื่องจากมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับหนี้ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้
ทั้งนี้ หนี้โดยเฉลี่ยของภาคครัวเรือนอยู่ที่ 43 ล้านวอน หรือ 38,000 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านวอนจากปี 2552
ทางด้านผู้บริหารนโยบายเศรษฐกิจมองว่า หนี้ภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยของเกาหลีใต้ยังคงมีเสถียรภาพ และธนาคารต่างๆก็มีสถานภาพทางการเงินที่ดี สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่มองว่า อัตราการขยายตัวของหนี้สินภาคครัวเรือนน่าเป็นห่วง