สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง และจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ดีดขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,092.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,084.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 16.741 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 3.3805 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,606.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 452.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.30 ดอลลาร์
ตลาดทองคำได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐจะฟื้นตัวเร็วๆนี้ หลังจากจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 442,000 รายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และจากการที่เบอร์นันเก้ กล่าวยืนยันต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งการคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
นักลงทุนจับตาดูการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) ว่าจะควบคุมการซื้อขายแบบเก็งกำไรในตลาดโลหะมีค่าล่วงหน้าหรือไม่ หลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยขณะนี้ CFTC กำลังระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า ภาคธนาคาร และเทรดเดอร์ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าถือครองทองคำที่ระดับ 1,120.079 ตัน ณ วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งทรงตัวจากระดับของวันที่ 23 มี.ค.