นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า เงินบาทของไทยขณะนี้ อยู่ระดับที่ไม่เสียเปรียบด้านการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขัน และสอดคล้องกับประเทศในภูมิภาค ทั้งมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ค่าเงินยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
นอกจากนี้ได้รับรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับเงินทุนไหลเข้าประเทศพบว่าอยู่ในระดับสูง ผ่านการเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากพอควร แต่ไม่ถือว่าผิดปกติ เนื่องจากเป็นเงินทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นเงินที่เข้ามาเก็งกำไร แต่ไม่ถือว่าเป็นเงินร้อน เพราะเชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาลงทุนถือหุ้นระยะยาวพอสมควร ทั้งนี้หากเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นสถานการณ์การเมืองไม่สงบ อาจทำให้เงินไหลออกได้
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลนโยบายการเงิน หากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น สถานการณ์ทางการเมืองสงบ เชื่อว่าจะนำไปสู่การปรับดอกเบี้ยนโยบายได้ และหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะไม่กระทบต่อผู้ประกอบการหรือสภาพคล่องมากนัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยขณะนี้อยู่ในระดับต่ำ จึงยังสามารถบริหารจัดการได้
"ปัจจัยที่มีผลให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ต้องดูจาก การขยายตัวของเศรษฐกิจว่าฟื้นหรือยัง, แนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น การไหลเข้าของเงินทุน เพราะเมื่อดอกเบี้ยมีการปรับตัวสูงกว่าประเทศอื่น จะส่งผลให้มีเงินไหลเข้า ซึ่งต้องไปดูต่อว่าจะมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร" รมว.คลัง กล่าว