ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 9.15 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 10,850.36 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 0.86 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,166.59 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.28 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 2,395.13 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) หลังรัฐบาลเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสสี่ปีที่แล้วขยายตัวน้อยกว่าที่ได้มีการประเมินก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอัตราการขยายตัวของความต้องการพลังงานอาจชะลอตัว
สัญญาน้ำมัน NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 53 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.54 - 81.46 ดอลลาร์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังผู้นำกลุ่มประเทศยุโรปสามารถตกลงกันได้เรื่องแผนการช่วยเหลือกรีซในการลดหนี้สินจำนวนมหาศาล
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,104.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,088.50 - 1,106.80 ดอลลาร์
- -ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่วันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) หลังจากหุ้น อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ และแมน กรุ๊ป ร่วงลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 24.63 จุด หรือ 0.4% มาอยู่ที่ระดับ 5,703.02 จุด อย่างไรก็ดี ดัชนียังสามารถปิดท้ายสัปดาห์ได้ในแดนบวก ซึ่งนับเป็นการเดินหน้าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่
- เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) โดยยูโรดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ภายหลังผู้นำยุโรปตกลงกันได้ถึงวิธีการที่จะช่วยกรีซลดหนี้จำนวนมหาศาล
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.06% แตะที่ 1.3419 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3278 หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์เงินยูโรได้ร่วงลงแตะ 1.3268 ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับระดับอ่อนค่าที่สุดในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ค่าเงินยูโรบวกขึ้น 0.87% แตะที่ 124.09 เยน จากระดับ 123.02 เยนในวันก่อน ตลอดจนแข็งค่าขึ้น 0.29% เมื่อเทียบฟรังค์สวิส แตะ 1.4298 จากระดับ 1.4257 และพุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบปอนด์ แตะ 0.9009 จากระดับ 0.8961 ปอนด์