นายโนบูโอะ ทานากะ ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เปิดเผยว่า ไออีเอ, กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอฟ) จะประกาศ "แผนการดำเนินงานร่วม" ในปีนี้ เพื่อยับยั้งความผันผวนของตลาดน้ำมัน โดยแผนการดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่การรับมือกับภาวะผันผวนของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงประเด็นแนวโน้มตลาดพลังงาน
นอกจากนี้ นายทานากะกล่าวว่า แผนการดำเนินงานร่วมฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงกระดมผู้เชี่ยวชาญและแบ่งปันข้อมูลเพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการซื้อขายน้ำมัน โดยคาดว่าแผนการดังกล่าวจะมีการเปิดเผยภายหลังการประชุมไออีเอฟในวันที่ 31 มี.ค.นี้
ด้านนายโน ฟาน ฮัลส์ เลขาธิการไออีเอฟกล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ราคาน้ำมันกลับไปแกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 115 ดอลลาร์/บาร์เรลเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2551 พยายามทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อยับยั้งภาวะราคาน้ำมันผันผวน
ขณะที่นายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคกล่าวว่า โอเปค ไออีเอ และไออีเอฟควรจะร่วมมือกันลดภาวะผันผวนในตลาดน้ำมันโลก พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าที่ประชุมไออีเอฟจะเป็นกำลังสำคัญในการรับมือกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ นายเอล-บาดรียังกล่าวชื่นชมสหรัฐที่ตื่นตัวเรื่องการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดน้ำมัน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย และนายแดเนียล โพนแมน รมช.พลังงานสหรัฐ จะเข้าประชุมไออีเอฟในฐานะตัวแทนประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกและผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ร่วมกับรมว.พลังงานจาก 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารจากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั่วโลกเข้าร่วมประชุมด้วย รวมถึงผู้บริหารจาก เอ็กซอนโมบิล คอร์ป และรอยัล ดัทช์ เชลล์
คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) ได้เสนอให้มีการเพิ่มขัอจำกัดการซื้อขายในตลาดพลังงาน เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทหรือนักลงทุนทั่วไปเข้ามามีอิทธิพลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากเกินไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ CFTC เคยกำหนดให้นักลงทุนสถาบันซึ่งมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงประเภทอื่นๆ ยื่นรายงานการซื้อขายประจำเดือนต่อทางคณะกรรมการฯ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะคำนวณดัชนีการซื้อขายได้อย่างถูกต้องและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการซื้อขายของสถาบันการเงินจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน