ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดของญี่ปุ่น ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในเอเชียกำลังฟื้นตัวนำหน้าสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆในยุโรป
คุโรดะกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดก่อนการประชุมสามัญประจำปีซึ่งจะจัดขึ้นที่อุซเบกิสถานในเดือนพ.ค.ว่า "ปัญหาก็คือมีญี่ปุ่นประเทศเดียวที่เผชิญภาวะเงินฝืด ซึ่งฉุดรั้งประชาชนจากการบริโภค"
เขายังได้กล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นควรฟื้นฟูสภาพการคลังให้กลับมาเป็นปกติเพื่อค้ำจุนระบบประกันสังคมสำหรับสำหรับประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุโรดะ ซึ่งเป็นอดีตรมช.กระทรวงการคลังญี่ปุ่นด้านกิจการต่างประเทศ กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 2553 ของประเทศในเอเชียมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวสูงกว่าปี 2551
"แต่ประเทศในเอเชียจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบเศรษฐกิจจากที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักมาเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ในประเทศ เพื่อรักษาอัตราการขยายตัวสูงไว้ได้ต่อไป" เขากล่าว "จีนควรกระตุ้นการบริโภค ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรส่งเสริมการลงทุน ส่วนอินเดียจะต้องกระตุ้นการลงทุนและการออม"
คุโรดะกล่าวด้วยว่า โครงการพัฒนาลุ่มน้ำโขงสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยโครงการบูรณาการเศรษฐกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากเอดีบี
ประธานเอดีบีกล่าวว่า ในอนาคต เอดีบีจะมุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาสาธารณูปโภคแบบเบา (soft infrastructure) ซึ่งรวมถึงการการทำพิธีการศุลการกร (Customs Clearance Procedures) ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน นอกเหนือไปจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือระบบสาธารณูปโภค (hard infrastructure) เช่น การก่อสร้างถนน