ที่ประชุมสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารและนายกสมาคมด้านการท่องเที่ยว 21 แห่ง ประกาศนัดรวมพลัง 2 เม.ย.บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 เวลา 16.00 น.เพื่อแสดงท่าทีและเรียกร้องให้รัฐบาลและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) ร่วมการหาทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งและการชุมนุมโดยเร็ว หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"จะนัดรวมพลังเพื่อแสดงท่าทีและเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงและรัฐบาลยุติความขัดแย้ง และยุติการชุมนุมโดยเร็ว โดยตัวแทนผู้ประกอบการกว่า 1,000 คนจะมาร่วมกันชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี หน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ในวันศุกร์ที่ 2 เมษายน เวลา 16.00 น." นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกเฟสต้า กล่าว
พร้อมกันนี้ในวันและเวลาเดียวกันจะมีการรวมพลังของผู้ประกอบการในที่ต่างๆ ด้วย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา โดยใช้ข้อความว่า ยุติความขัดแย้งเพื่อท่องเที่ยวไทย ทุกฝ่ายหยุดทำร้ายท่องเที่ยวไทย สมานฉันท์เพื่อท่องเที่ยวไทย
โฆษกเฟสต้า กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายดูแลการชุมนุมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ไม่มีความรุนแรง
"หากการชุมนุมยืดเยื้อจะยิ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศไทย เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ โดยขณะนี้การท่องเที่ยวได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว" นายเจริญ กล่าว
ด้านนายอเนก ศรีชีวชาติ นายกสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อทำให้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเหตุระเบิดรายวันที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความกังวลด้านความปลอดภัย และการจองทัวร์มีการชะลอลงเพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนการตัดสินใจยุบสภาหรือไม่นั้นเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่รัฐบาลจะยุบสภา จึงขอให้เหตุการณ์การชุมนุมไม่มีความรุนแรงและควรยุติโดยเร็ว
ขณะที่นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) กล่าวว่า ธุรกิจการประชุมและสัมมนา(MICE) ได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจท่องเที่ยวประเภทอื่นที่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้การจัดงานส่วนใหญ่มีการเลื่อนและยกเลิกออกไป และทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส เพราะทำให้ประเทศคู่แข่งได้กลุ่มลูกค้า MICE แทนประเทศไทย จึงต้องการให้สถานการณ์ในประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งการยุบสภานั้น เห็นว่า ระยะเวลา 9 เดือนนั้นเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการเตรียมการและทำให้สถานการณ์อยู่ในภาวะสงบเรียบร้อย
ส่วนนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า การชุมนุมในขณะนี้ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยจากเดิมสมาคมฯ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในไทยประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกของปีสามารถทำได้ตามเป้าหมายถึง 2.2 แสนคน แต่จากสถานการณ์การชุมนุมทำให้คาดว่า เป้าหมายในปีนี้จะลดลงประมาณ 3-4% หรือประมาณ 4-5 หมื่นคน รวมทั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์จากเดิมที่คาดว่าจะมีเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์) จากนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 100 ลำ จะลดลงเหลือเพียง 50-60 ลำ สำหรับการยุบสภานั้นควรต้องให้เวลาที่เหมาะสมเสียก่อนที่จะมีการยุบสภา