"รูบินี" ชี้อินเดียต้องมีทุนอีกมหาศาลจึงสามารถเติบโตได้เท่ากับจีน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 31, 2010 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาสตราจารย์ นูเรียล รูบินี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมซึ่งจัดโดยบริษัท Edelweiss Capital Ltd. ในเมืองมุมไบ ว่า อินเดียจำเป็นต้องมีทุนอีกจำนวนมหาศาลจึงจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเทียบเท่ากับจีน แต่ถึงกระนั้น อินเดียก็ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการที่ตลาดการค้าโลกเริ่มให้น้ำหนักกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์รูบินีกล่าวว่า จีนเปรียบเหมือนกระต่าย และอินเดียเปรียบเหมือนเต่า ซึ่งถึงแม้เต่าอย่างอินเดียจะมีฝีเท้าที่ก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่อินเดียต้องมีทุนอีกจำนวนมหาศาลจึงจะวิ่งไล่ทันกระต่ายอย่างจีนได้ ซึ่งหมายถึงทั้งทุนทั้งในด้านกายภาพและทุนด้านทรัพยากรบุคคล โดยทุนด้านกายภาพที่จำเป็นต้องอินเดียนั้น อยู่ในรูปของสาธารณูปโภคที่ลงทุนทั้งโดยภาครัฐและเอกชน หรือเป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน และอินเดียจะต้องมีเสถียรภาพทางสังคมที่ดีด้วย

"เศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มจะขยายตัวแบบ V-shape และอินเดียมีภาษีเหนือกว่าก็คือพึ่งพาการส่งออกน้อยกว่าจีน ขณะที่จีนเองนั้นอาจจะเผชิญกับปัญหาความท้าทายมากขึ้นในการประคับประคองเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวด้วยเลขสองหลักต่อไปได้ ในขณะที่ความท้าทายของอินเดียคือการไปให้ถึงเป้าหมายการขยายตัวที่ระดับตัวเลขสองหลัก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมมองว่าดุลยภาพทางเศรษฐกิจของอินเดียมีมากกว่าจีน" ศาสตราจารย์รูบินีกล่าว

นอกจากนี้ รูบินีกล่าวว่า แม้ระบบเศรษฐกิจของอินเดียและจีนจะไม่ใหญ่ถึงขนาดเป็นผู้นำในการผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัว แต่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงเป็น "ดาวรุ่งพุ่งแรง" เมื่อเทียบกับสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่ล้วนแต่กำลังเผชิญกับปัญหาเงินฝืด ทั้งนี้ รูบินีเชื่อว่า ขนาดของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และจะมีตัวเลขจีดีพีสูงกว่าสหรัฐภายใน 20-30 ปีข้างหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ