สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของประเทศพุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 1.448 แสนล้านยูโร (1.947 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2552 หรือคิดเป็น 7.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
แม้ว่ายอดขาดดุลดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ก็ยังคงถือว่าเป็นการขาดดุลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่สหภาพยุโรป (อียู) กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 3% ของจีดีพี
INSEE เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,489 พันล้านยูโร (1,995 พันล้านดอลลาร์) ณ สิ้นปี 2552 คิดเป็น 77.6% ของจีดีพี ซึ่งสูงกว่าระดับ 67.5% ของจีดีพีในปี 2551
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณปีที่แล้วจะเพิ่มขึ้นแตะ 7.9% ของจีดีพี ก่อนที่จะทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 8.2% ในปี 2553 ขณะที่หนี้สาธารณะนั้น รัฐบาลประเมินว่าจะปรับตัวขึ้นแตะ 83.2% ของจีดีพีในปีนี้ จากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 87.1% ภายในปี 2555 ซึ่งตัวเลขทั้งสองรายการอยู่เหนือกว่าเกณฑ์ปลอดภัยของอียูมาก
ทั้งนี้ ฟรองซัวส์ บารวง รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณของฝรั่งเศส ได้ผลักดันให้การลดยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกของกระทรวง พร้อมระบุว่า ภารกิจนี้ควรเป็นภารกิจสำคัญสุดของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีย์เช่นกัน