นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิพล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการลงทุนในมาบตาพุด 50 โครงการที่ได้ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) ตามรัฐธรรมนูญปี 50 เสร็จไปแล้ว 70-80% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้ หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะยื่นขอคำร้องต่อศาลปกครองให้เดินหน้าทำการลงทุนได้ตามปกติ
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หากคณะอนุมกรรมการฯ มีการปรับลดประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรงจากประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งแวดล้อมเหลือน้อยกว่า 14 ประเภทกิจการ สมาคมฯ จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพราะภาคประชาชนเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 67 วรรค 2 เห็นว่า โครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงน่าจะมีไม่น้อย 30 โครงการที่เข้าข่ายทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การดูดทราย การทำเหมืองหิน แร่โลหะทองคำ
ส่วนกรณีที่สมาคมฯ จะยื่นต่อศาลปกครองกลางให้ชะลอการลงทุน 181 โครงการทั่วประเทศ ที่เข้าข่ายมีผลกระทบต่อชุมนุมรุนแรง ขณะนี้จะยังไม่ดำเนินการ เนื่องจากจะให้เวลาผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามกฎหมายก่อน ซึ่งจะต้องรอการจัดตั้งองค์การอิสระที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.นี้พิจารณาด้วย หากผู้ประกอบการไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
อย่างไรก็ดี วันนี้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อปรับปรุงรายการ "โครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมนุมอย่างรุนแรง ทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ" เป็นการปรับฟังความเห็น เพื่อกำหนดประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ครั้งสุดท้าย หลังจากที่ได้ทำการฟังความคิดเห็นมากแล้ว 5 ครั้ง
โดยจากนี้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมนุมอย่างรุนแรง ทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จะมีการสรุปเพื่อเสนอให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายฯ พิจารณาในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป