ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปี 53 ขยายตัวทั้งในปท.-ส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 2, 2010 11:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2553 มูลค่าการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12-14 จากปี 2552 เนื่องจากตลาดส่งออกสำคัญ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ยังมีทิศทางฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเปราะบาง ทำให้คาดว่าปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป จะยังขยายตัวดี ต่อเนื่องจากปี 2552 ที่ผ่านมา ขณะที่ผลจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จะทำให้ไทยสามารถขยายตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ อาทิ สปป.ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนามได้มากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยไปยังตลาดอาเซียนในปี 2553 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23-25 จากปี 2552

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า อาเซียนถือเป็นตลาดส่งออกของไทยที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก ประกอบกับรสชาติของอาหารที่บริโภคมีความคล้ายคลึงกัน แต่ปริมาณการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศเหล่านี้ยังมีไม่เพียงพอ

โดยมูลค่าการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยไปยังตลาดอาเซียนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2553 มีมูลค่าส่งออกรวม 110.8 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 27.1 ซึ่งส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ทำให้ไทยสามารถส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้มากขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า มูลค่าการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยไปยังตลาดอาเซียนตลอดทั้งปี 2553 นี้ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณร้อยละ 23-25

ขณะที่การจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดหลักของผู้ประกอบการไทย ในปี 2553 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า จะมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 11,200 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณร้อยละ 5-6 โดยได้รับอานิสงค์จากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่จะทำให้ความต้องการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในระหว่างรับชมการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซองที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้างอิ่มตัว โดยขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2-3 ต่อปี นั้นคาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3-4 จากปี 2552 หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 10,300 ล้านบาท ขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วยหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับพรีเมี่ยม จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 40 หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 896 ล้านบาท

สำหรับการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดหลักของผู้ประกอบการไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2553 จะมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 11,200 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณร้อยละ 5-6 โดยได้รับอานิสงค์จากแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน-11 กรกฎาคม 2553 ทำให้ความต้องการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในระหว่างรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับที่คาดว่าผู้ประกอบการจะนำกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ มาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อจูงใจผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อในสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น

แม้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะคาดว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2553 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก แต่ปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่ไม่มีความแน่นอน ก็อาจทำให้ราคาวัตถุดิบสำคัญ อาทิ แป้งสาลี และน้ำมันปาล์ม ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับถูกจำกัดไว้ที่ราคา 5-8 บาท/ ซอง เท่านั้น ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของราคาและสถานการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด และนำกลยุทธ์การซื้อ-ขายวัตถุดิบล่วงหน้ามาปรับใช้ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงและจัดการระบบบริหารสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ