พณ.เผยสหรัฐฯออกมาตรการวาง CBP Bond กรณีนำเข้าสินค้าเกินกว่า 2 พันเหรียญฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 2, 2010 14:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ศุลกากรสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้ามายังสหรัฐฯ ทุกชนิดที่มีมูลค่ามากกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐฯจำเป็นต้องวางเงินค้ำประกันศุลกากรของสหรัฐฯ (Customs and Border Protection Bond : CBP Bond)

CBP Bond คือ สัญญาหรือข้อตกลงที่จัดทำขึ้นเพื่อช่วยรับประกันสินค้าและให้ความคุ้มครอง ภายใต้กฎหมายและระเบียบทางการค้าของสหรัฐฯ โดย CBP Bond เป็นหนึ่งในมาตรการการให้ความคุ้มครองทางการค้าที่สหรัฐฯใช้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในที่อาจได้รับความเสียหายจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่เป็นธรรม เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) เป็นต้น

CBP Bond สามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ เงินค้ำประกันแบบ Continuous Transaction Bond โดยทั่วไปแล้วผู้จัดทำจะเป็นผู้นำเข้าสินค้าจำนวนมาก หรือนำเข้าจากหลายเส้นทาง รวมถึงการขนส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากร ซึ่งเงินค้ำประกันประเภทนี้จะมีอายุ 1 ปีและต้องต่อสัญญาใหม่ทุกครั้ง ผู้นำเข้าจะต้องวางเงินค้ำประกันขั้นต่ำ 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ ร้อยละ 10 ของจำนวนภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่จำเป็นต้องจ่ายล่วงหน้า 12 เดือน

เงินค้ำประกันแบบ Single Entry Bond ผู้นำเข้าจะวางเงินค้ำประกันสำหรับการนำเข้าสินค้าที่เจาะจงและสัญญามีพันธะครอบคลุมสินค้าที่ถูกระบุไว้เท่านั้น ส่วนจำนวนเงินที่ค้ำประกันจะต้องไม่ต่ำกว่าจำนวนมูลค่าเพิ่มของภาษี และค่าธรรมเนียมทั้งหมด และหากการค้านั้นมีตัวแทนหลายฝ่ายหรือเป็นการค้าเฉพาะ จำนวนเงินค้ำประกันจะไม่ต่ำกว่า 3 เท่าของมูลค่าสินค้าทั้งหมด

ในการจัดทำ CBP Bond จะมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย คือ the Principal คือ ผู้นำเข้าที่ต้องการทำสัญญาหรือผู้รับมอบฉันทะ มีหน้าที่วาง CBP Bond เพื่อคุ้มครองสินค้าภายใต้วงเงินที่ค้ำประกัน

the Surety คือ ผู้ค้ำประกัน เป็นบริษัทนิติบุคคลซึ่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงการ คลังสหรัฐฯให้มีอำนาจในการจัดทำ CBP Bond ได้ ในกรณีที่ผู้นำเข้ากระทำผิดเงื่อนไขการค้า เช่น มีการทุ่มตลาด หรือหลีกเลี่ยงภาษี ศุลกากรสหรัฐฯสามารถยึดเงินค้ำประกันนั้นจาก Surety ได้ อย่างไรก็ดี หากมีหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากที่ระบุในสัญญาค้ำประกัน Surety จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินส่วนนั้นแก่ศุลกากรสหรัฐฯ

the Beneficiary ผู้ได้รับผลประโยชน์ คือ ศุลกากรสหรัฐฯ การสิ้นสุดของสัญญา หมายความว่า ระยะเวลาของเงินค้ำประกันนั้นได้สิ้นสุดลง โดยไม่มีหนี้สินกับศุลกากรสหรัฐฯ ซึ่งผู้นำเข้าสามารถขอรับเงินประกันคืนได้ โดยจะมีการประกาศให้ทราบผ่านบริษัท

ทั้งนี้ ผู้นำเข้าสามารถขอรับเงินประกันคืนได้ ระยะเวลาของเงินค้ำประกันนั้นได้สิ้นสุดลง โดยไม่มีหนี้สินกับศุลกากรสหรัฐฯ โดยจะมีการประกาศให้ทราบผ่านบริษัท Surety


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ