รายงานข่าวจากธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) แจ้งว่า ธนาคารได้สำรองเงินสดวงเงินรวม 5,500 ล้านบาท สำหรับตู้เอทีเอ็มกว่า 1,700 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย.53 และวันหยุดต่อเนื่องในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นการสำรองเงินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้เชื่อว่าวงเงินสดสำรองจะเพียงพอกับความต้องการใช้เงินของประชาชนในช่วงที่มีวันหยุดยาวพิเศษต่อเนื่อง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการทางการเงินทั้งการฝาก-ถอนเงินตามปกติ ณ ที่ทำการสาขาที่เปิดให้บริการในเวลาพิเศษทั้ง 7 วันทำการตามห้างสรรพสินค้าที่สำคัญทั่วประเทศ เช่น สาขาย่อยเดอะมอลล์ บางกะปิ สาขาย่อยเดอะมอลล์ บางแค สาขาย่อยฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สาขาย่อยเซ็นทรัล บางนา สาขาย่อยตึกคอมพัทยา สาขาย่อยเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า จ.เชียงใหม่ สาขาโรบินสันโอเชี่ยนนครศรีธรรมราช และสาขาย่อยลีการ์เดนส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ เป็นต้น โดยจะยกเว้นการให้บริการเฉพาะวันอังคารที่ 13 เม.ย.53 ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ของทุกปีเท่านั้น
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) จัดเตรียมเงินสดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,000 ล้านบาท สำหรับบรรจุในเครื่องเอทีเอ็ม ของ ธนาคา ประมาณ 7,000 เครื่องทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นเงินสำหรับบรรจุในเขตกรุงเทพมหานคร 8,500 ล้านบาท และในเขตต่างจังหวัดเป็นเงิน 7,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.53
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยเตรียมเงินสดสำหรับบรรจุในเครื่องเอทีเอ็มลดลงจากปี 52 ซึ่งอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จำนวนวันหยุดต่อเนื่องช่วงสงกรานต์มีเพียง 3 วัน น้อยกว่าปี 52 ที่หยุดยาวติดต่อกันถึง 5 วัน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการเบิกจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2553 โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 ธปท.สำรองธนบัตร จำนวน 283,000 ล้านบาท โดยเป็นธนบัตรใหม่ จำนวน 239,600 ล้านบาท
ธปท. ประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรในช่วงสงกรานต์ (1-16 เม.ย.) เป็นมูลค่าประมาณ 101,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2552 ที่มีมูลค่าการเบิกจ่ายธนบัตร 100,970 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 52 ปริมาณการเบิกจ่ายสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2551 มากถึงร้อยละ 28 ซึ่งเป็นผลจากโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐหรือโครงการเช็คช่วยชาติ