คลัง เผยยอดหนี้สาธารณะเดือน ม.ค. 53 อยู่ที่ 44.23% ต่อจีดีพี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 7, 2010 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มกราคม 2553 มีจำนวน 4,001,841 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.23 ของ GDP

หนี้สาธารณะดังกล่าว เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,643,728 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,093,441 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 190,037 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 74,635 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 34,360 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 55,602 ล้านบาท สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 4,842 ล้านบาท 8,397 ล้านบาท และ 8,003 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 55,602 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 39,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1 จำนวน 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนดในเดือนพฤศจิกายน 2552 จำนวน 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีขั้นตอนการออกพันธบัตรไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF1 และ FIDF3) ที่ใช้เป็น Bridge Financing ในการปรับโครงสร้างหนี้ ในระหว่างพฤศจิกายน 2552-มกราคม 2553 โดยมีการทยอยออกพันธบัตร ในเดือนพฤศจิกายน 2552 จำนวน 8,000 ล้านบาท เดือนธันวาคม 2552 จำนวน 7,000 ล้านบาท และเดือนมกราคม 2553 จำนวน 15,000 ล้านบาท

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลงสุทธิ 4,482 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 8,397 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน รายการที่สำคัญเกิดจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 19,180 ล้านบาท

หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 8,003 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน

หนี้สาธารณะ จำนวน 4,001,841 ล้านบาท หากแยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 369,014 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.22 และหนี้ในประเทศ 3,632,827 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.78 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,746,313 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.61 และหนี้ระยะสั้น 255,528 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.39 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ