สำนักงานกำกับดูแลด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานในความดูแลของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนกำลังพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้มีการค้าขายในรูปสกุลเงินหยวนเทียบกับสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย เงินวอนของเกาหลีใต้ และริงกิตของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินหยวนในการค้าขายข้ามพรมแดน
เจ้าหน้าที่ของสำนักงานดังกล่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนกำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่จะเปิดทางให้มีการซื้อขายสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับเงินวอน ริงกิต และรูเบิล จากปัจจุบันที่เทรดเดอร์ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรํฐ ยูโร เงินเยน ดอลลาร์ฮ่องกง และเงินปอนด์
ทั้งนี้ จีนกำลังหาลู่ทางที่จะใช้สกุลเงินหยวนในขอบข่ายที่กว้างขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า กล่าวแสดงความคิดเห็นเมื่อเดือนที่แล้วว่า จีนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากจีนถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนอนุญาตให้บริษัทในเซี่ยงไฮ้และในอีก 4 เมืองใหญ่ๆในมณฑลกวางตุ้ง ใช้เงินหยวนในการค้าขายข้ามพรมแดนร่วมกับฮ่องกง มาเก๊า และชาติสมาชิกกลุ่มอาเซียน
นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังกดดันให้จีนยุติการตรึงค่าเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่จีนดำเนินการมายาวนานถึง 21 เดือน และจะนำประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือในที่ประชุมร่วมกันประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์ในจีนต่างสนับสนุนการแข็งค่าของเงินหยวนเพื่อให้จีนมีบทบาทมากขึ้นในตลาดการค้าโลกและเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของตลาดการเงิน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ประกาศเลื่อนการทบทวนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนประจำปีออกไปเป็นวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐอาจตัดสินใจระบุว่าจีนปั่นค่าเงินหยวน นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวว่าการประชุมที่จะมีขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้านั้น ถือเป็นจุดพลิกผันที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกมีความสมดุลมากขึ้น