กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.ของญี่ปุ่นทะยานขึ้น 29.6% จากปีที่แล้ว เนื่องจากดีมานด์สินค้าญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13
ส่วนยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 4.2% ทำสถิติพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 10 ปี และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากดีมานด์รถยนต์ พลังงาน และเครื่องจักร ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นยังช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การฟื้นตัวของหลายภาคส่วน รวมถึงภาคการส่งออกและภาคครัวเรือน ช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถขยายตัวได้ในปีนี้ โดยยอดส่งออกเดือนก.พ.ทะยานขึ้น 45.3% จากปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 5.13 ล้านล้านเยน หรือ 5.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือนเมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29.5% แตะที่ระดับ 4.48 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.พ.ทั้งสิ้น 6.51 แสนล้านเยน เนื่องจากดีมานด์รถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น