ธนาคารกลางจีนเปิดประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 ปี วงเงิน 1.5 หมื่นล้านหยวน หรือ 2.2 พันล้านดอลลาร์ ในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในวันนี้ ซึ่งเป็นการขายตั๋วเงินคลังครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2552 โดยมีเป้าหมายที่จะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน และเพื่อควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ ด้วยการให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงถึง 2.75% และมีระยะเวลาการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังที่นานขึ้นด้วย
นอกจากนี้มีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนยังเตรียมดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดเป็นจำนวนเงินสุทธิ 1.10 แสนล้านหยวนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันที่มีการดูดซับสภาพคล่องสุทธิจำนวนมากออกจากระบบ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะชะลอปริมาณการปล่อยเงินกู้ไม่ให้สูงเกินไป เพราะเกรงว่าอาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและฟองสบู่
นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ ไชน่า คาดว่าจีนอาจจะนำตั๋วเงินคลังที่มีอายุการไถ่ถอนยาวนานมากกว่า 3 ปีออกจำหน่ายอีก และคาดว่า จีนจะยังคงกำหนดให้สถาบันการเงินเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการถอนมาตรการเศรษฐกิจ แทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ระดับ 3% นอกจากนี้มีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนพยายามลดปริมาณการปล่อยกู้ใหม่ลง 22% ในปีนี้ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2552 ที่ 9.59 ล้านล้านหยวน หลังจากที่มีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศเพิ่มการกันสำรองสภาพคล่องถึงสองครั้งในปีนี้