นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ระบุว่า ในช่วงสถานการณ์การเมืองที่รุนแรง คปภ.ได้ต่ออายุการทำประกันคุ้มครองชาวต่างชาติกรณีการจราจลที่หมดระยะเวลาการประกันไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยครั้งนี้ได้ขยายเวลาการทำประกันออกไปถึง 31 มี.ค.54
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และให้ คปภ.ดำเนินการในเรื่องของกรมธรรม์ โดยจะคุ้มครองกรณีที่มีการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ สูญเสียชีวิต มีวงเงินประกันไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และกรณีเกิความเสียหายจากการหยุดชะงักจากการเดินทาง แต่โดยรวมการเอาประกันจะไม่เกิน 30,000 ดอลลาร์ คิดอัตราเบี้ยประกัน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/คน
สำหรับภาพรวมการเติบโตธุรกิจประกันภัย 2 เดือนแรกที่ผ่านมา สามารถเติบโตได้ถึง 19.14% โดยแบ่งเป็นประเภทประกันชีวิตโต 23.65% ประเภทวินาศภัยโต 10.4% ถือว่าแม้การเมืองจะวุ่นวายแต่ธุรกิจประกันภัยยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเร่งหารือกับกรมสรรพากร และกรมศุลกากร เพื่อพิจารณาการลดหย่อนภาษีประเภทการประกัน ทั้งประกันสุขภาพ ประกันเกษียนอายุ และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บภาษี หลังจากสำนักงานคปภ.ได้เสนอตัวเลขการลดหย่อยให้กระทรวงคลังแล้ว โดยจะนำให้ ทั้ง 2 กรมฯ พิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอให้แก่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมยืนยันว่า แม้จะมีสถานการณ์การเมืองที่วุ่นวาย แต่นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องดำเนินต่อไป รวมทั้งกระทรวงคลังได้เน้นย้ำกับ คปภ.ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้มีความเข้มงวดมากขึ้นในการดูแลผู้ทำประกัน ส่วนผู้ประกอบการกิจการต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีความระมัดระวัง โดยจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในทุกที่จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก