กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. พุ่งขึ้น 18,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 460,000 คน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 435,000 คน
ข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และยังสนับสนุนมุมมองของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น แต่สหรัฐก็ยังเผชิญกับปัญหาท้าทายอีกมาก รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เบอร์นันเก้เตือนว่าหากอัตราว่างงานยืนอยู่ในระดับสูงนานเกินไป ก็จะส่งผลบั่นทอนทักษะการทำงานของพนักงาน และจะยิ่งทำให้รายได้ระยะยาวปรับตัวลดลงด้วย
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 40,000 ตำแหน่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้ รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.รูดลง 49 เซนต์ ปิดที่ 85.39 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาทองคำ COMEX เดือนมิ.ย.ลดลง 10.00 เซนต์ ปิดที่ 1,152.90 ดอลลาร์/ออนซ์