ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐหลายแห่งเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถบดบังกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซและจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 29.55 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 10,927.07 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 1,186.44 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 5.65 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 2,436.81 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าตัวเลขว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.รูดลง 49 เซนต์ ปิดที่ 85.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.73-84.80 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 10.00 เซนต์ แตะที่ระดับ 1,152.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,144.40-1,154.70 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ รวมทั้งการที่กรีซต้องเผชิญกับต้นทุนการกู้ยืมในตลาดการเงินภายในประเทศที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่ากรีซไม่มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3348 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.3340 ยูโร/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.1% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.330 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.340 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะพื้นฐานและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินของกรีซอาจไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 49.36 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 5,712.70 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,684.52-5,762.06 จุด