นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับกรีซ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดกระแสความวิตกกังวลของตลาดเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ
นายทริเชต์กล่าวว่า มาตรการสนับสนุนกรีซที่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้ร่างไว้ในการประชุมที่บรัสเซลส์เมื่อเดือนที่แล้วนั้น ถือเป็น "กรอบการทำงานที่เป็นรูปธรรม" ซึ่งหมายความว่า ผู้นำรัฐบาลในยูโรโซนจำเป็นต้องดำเนินการตามข้อตกลงที่ให้ไว้อย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ ทริเชต์ได้แสดงท่าทีที่อ่อนลงกรณีที่ก่อนหน้านี้เขาเคยคัดค้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในมาตรการช่วยเหลือกรีซ "ผมไม่เคยข้องใจในความเชี่ยวชาญของไอเอ็มเอฟ แต่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีจุดยืนที่ต้องการให้รัฐบาลในยูโรโซนแสดงความรับผิดชอบด้วยตัวเอง ผมเพียงแต่ย้ำว่า ผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับปัญหาการเงินของกรีซคือรัฐบาลและรัฐสภาของกรีซเอง" นายทริเชต์กล่าว
นอกจากนี้ นายทริเชต์ส่งสัญญาณว่าอีซีบีจะไม่รีบร้อนใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินของกรีซทำให้อีซีบีจำเป็นต้องเลื่อนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทริเชต์ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยของอีซีบียังอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ส่วนในการประชุมนโยบายเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีมีติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1% เป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนยังได้คาดการณ์ด้วยว่า อีซีบีจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การที่นายทริเชต์ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่ากรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ได้ช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร และช่วยหนุนสกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้