นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ Japan Credit Rating Agency, Ltd.(JCR)ได้ปรับลดระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท(Local Currency Long-Term Senior Debts)จากระดับ A+ มาอยู่ที่ระดับ A
แต่ยังคงยืนยันระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Long-Term Senior Debts) ที่ระดับ A- โดยมีแนวโน้มของระดับเครดิตในระดับที่เป็นลบ (Negative Outlook)
JCR ปรับลดระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทของไทย เนื่องจากความขัดแย้งและความไม่สงบทางการเมืองและสังคมในประเทศไทย ซึ่งบ่อนทำลายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและฐานะการคลังของประเทศ
ขณะที่การยืนยันระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกและความแข็งแกร่งด้านต่างประเทศของประเทศไทยที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง แม้ว่าจะขาดเสถียรภาพทางการเมือง จะเห็นได้จากอุตสาหกรรมด้านการผลิตที่ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงความสามารถในการรองรับผลกระทบจากภายนอกของประเทศ จากการที่ปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่สูงกว่าหนี้ต่างประเทศทั้งหมด
นอกจากนี้ แนวโน้มของระดับเครดิตในระดับที่เป็นลบ (Negative Outlook) แสดงถึงสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่คาดว่าจะยืดเยื้อต่อไปและหยั่งรากลึกจนไม่สามารถขจัดให้หมดไปได้ในระยะเวลาอันสั้น ภายใต้ความไม่มั่นคงของรัฐบาลผสม ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่อาจก่อให้เกิดความกดดันในทางลบเพิ่มขึ้น หากความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมทวีความรุนแรงขึ้น สังคมก็จะเผชิญกับความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นหรืออาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
ทั้งนี้ JCR จะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับประเด็นต่างๆ ได้แก่ การแก้ปัญหาของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความมีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม ผลกระทบของเศรษฐกิจโลกต่อเศรษฐกิจของไทย นโยบายในการรักษาความยั่งยืนทางการคลัง และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป