นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เผยขณะนี้สถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก(SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) โดยมีการขายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วเกือบ 5 พันเมกะวัตต์
แยกออกเป็น การรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP มียอดขายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วจำนวน 56 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 4,119.76 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายทั้งสิ้น 2,338.52 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์ ได้แก่ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา จำนวน 1,723.5 เมกะวัตต์ เชื้อเพลิงจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ ชีวมวล 349.3 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงอื่นๆ 32.7 เมกะวัตต์
ซึ่งขณะนี้มีโครงการ SPP พลังงานหมุนเวียนที่มีศักยภาพมาก และอยู่ระหว่างการพิจารณา อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ 7 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 432.6 เมกะวัตต์, พลังงานลม 10 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 928 เมกะวัตต์ และพลังงานขยะ 4 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 285 เมกะวัตต์
ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจาก VSPP มียอดขายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วจำนวน 161 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 811.3 เมกะวัตต์ ปริมาณเสนอขายทั้งสิ้น 356 เมกะวัตต์ โดยเป็นพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ 7.7 เมกะวัตต์, ก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ น้ำเสียจากโรงงาน 43 เมกะวัตต์, ชีวมวล 287.8 เมกะวัตต์, ขยะ 10.8 เมกะวัตต์, พลังน้ำ 0.54 เมกะวัตต์ และพลังลม 0.38 เมกะวัตต์ รวมทั้งเชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์จากถ่านหิน 6 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันโครงการ VSPP ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา พบว่ามีผู้ยื่นเสนอขายจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีประเภทอื่น คือ 126 ราย กำลังผลิตติดตั้งสูงถึง 613.93 เมกะวัตต์ รองลงมา ได้แก่ ชีวมวล 60 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 491.27 เมกะวัตต์, ก๊าซชีวภาพ 22 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 75.48 เมกะวัตต์, พลังงานขยะ 20 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 140.36 เมกะวัตต์ และพลังงานลม 11 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 77.32 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ สนพ.มีมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เหมาะสมสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแต่ละชนิดและเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับศักยภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการกำหนดนโยบายส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของประเทศ โดยได้กำหนดส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าใหม่ จากราคารับซื้อไฟฟ้าตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP และ VSPP รวมทั้งแก้ไขกฎระเบียบอื่นๆ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนตามแผนพลังงานทดแทน 15 ปีของกระทรวงพลังงาน