ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในสัปดาห์นี้ (วันที่ 12-16 เมษายน 2553) คาดว่าธุรกรรมในตลาดเงินจะเบาบาง เนื่องจากมีจำนวนวันทำการน้อย ขณะที่จะมีการตัดจ่ายเงินภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนผ่านระบบธนาคาร ทั้งนี้ สภาพคล่องที่มีอยู่มากในตลาดเงิน น่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 1.25% อย่างต่อเนื่อง
ส่วนเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. และทิศทางของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาค
ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ อาจขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก และดุลการคลังเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ดุลการค้า ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ เดือนก.พ. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตากระแสการคาดการณ์เงินหยวน และถ้อยแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสของประธาน เฟดอีกด้วย
สำหรับเงินบาทในประเทศ (Onshore) สัปดาห์ที่ผ่านมา (5-9 เม.ย.) ขยับแข็งค่าได้ต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ สวนทางกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์การแข็งค่าของค่าเงินหยวน
กระนั้นก็ดี เงินบาทสามารถหักล้างช่วงติดลบลงทั้งหมด และกลับไปปรับตัวแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย และแรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ต่อมาในช่วงท้ายสัปดาห์ เงินบาทปรับตัวผันผวนมากขึ้น โดยปัจจัยทางการเมืองหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นไทยจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติ ก่อนจะดีดตัวแข็งค่ากลับมาปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ระดับ 32.21 ในวันศุกร์ ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เงินหยวน เทียบกับระดับ 32.31 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 เม.ย.)
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเช่นเดิม