นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร กล่าวว่า จากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จนถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้ ประเทศไทยมีความบอบช้ำมาก ทั้งผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และจากความขัดแย้งภายในประเทศ ทำให้ขาดความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองสูง นักลงทุนไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และหันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามที่มีเสถียรภาพทางการเมืองสูง ค่าแรงต่ำ มีน้ำมันดิบ รวมทั้งมีก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก
ดังนั้น หากเหตุการณ์ชุมนุมขยายตัวและสร้างความรุนแรงต่อไป ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ไม่ว่าเรื่องการท่องเที่ยว การลงทุน การเงิน การธนาคาร รวมทั้งทำให้ต้นทุนในการกู้เงินของไทยจะมีอัตราดอกเบี้ยสูง จึงอยากเสนอให้รัฐบาลสร้างแรงจูงใจในการลงทุน โดยการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้นักลงทุนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
นายวิกรม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้ 4 อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างยุติธรรม และสันติ โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะสามารถยุติปัญหาได้อย่างถาวร ไม่เช่นนั้นแม้จะมีรัฐบาลใหม่หรือมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ก็จะเกิดกลุ่มสีเสื้ออื่นๆ ที่จะออกมาประท้วงเช่นเดิมอีก
ทั้งนี้ หากการพูดคุยของอดีตนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นอย่างโปร่งใส มีเหตุผล ไม่มีการแอบแฝงจะเป็นแนวทางของการจบปัญหาอย่างสันติสุข และถาวรของสังคมไทย
พร้อมกันนี้ อยากให้คนไทยทุกคนรักและสามัคคีกัน ไม่ทะเลาะกัน พร้อมเชื่อว่าทุกอย่างจะสามารถเดินไปสู่ความสำเร็จของการแก้ปัญหาความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน หากไม่เห็นแก่ตัวและทำเพื่อประเทศอย่างแท้จริง