เงินยูโรแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ ขานรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่มีมติออกเงินกู้ช่วยเหลือกรีซเป็นวงเงินรวมมูลค่าสูงถึง 4.5 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินของกรีซและเพื่อกอบกู้ความกู้ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจในยุโรป
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551 เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังตลาดหุ้นเอเชียพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Index พุ่งสูงขึ้น 0.9% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ขณะที่ข่าวการให้ความช่วยเหลือกรีซช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
ณ เวลา 09:42 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 1% แตะที่ระดับ 1.3637 ดอลลาร์/ยูโร และไต่ระดับขึ้น 1% แตะที่126.98 เยน/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทะยานขึ้นแตะระดับ 87.15 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และเคลื่อนไหวที่ระดับ 93.89 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.
นักวิเคราะห์ในออสเตรเลียคาดว่า ในสัปดาห์นี้เงินยูโรอาจขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 1.38 - 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากที่เทรดเดอร์พากันเทขายเงินยูโรออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ โดยข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคณะกรรมาธิการยุโรปและไอเอ็มเอฟที่มีมติจัดสรรเงินกู้ช่วยเหลือกรีซเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้นักลงทุนเลิกเทขายเงินยูโรและกลับเข้ามาซื้อคืนสกุลเงินดังกล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าในสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่เงินยูโรมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เงื่อนไขของข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซระบุว่า รัฐบาลในกลุ่มยุโรปจะปล่อยวงเงินกู้ประเภท 3 ปีให้กรีซมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโรในปีนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% ซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีในปัจจุบันของกรีซที่ระดับ 6.98% ส่วนเงินช่วยเหลืออีก 1.5 หมื่นล้านยูโรจะมาจากไอเอ็มเอฟ