นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันของเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยอมรับว่าส่งผลกระทบทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
ซึ่งด้านเศรษฐกิจในระยะสั้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมาก โดยเฉพะการบริโภคและการท่องเที่ยว ซึ่งระยะสั้นคาดว่าจะกระทบการเติบโตเศรษฐกิจไทยลดลง 0.2-0.5%
นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงว่า ในระยะปานกลางปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้ชะลอลงทั้งนักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนโดยตรง โดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นที่การลงทุนถือมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตเศรษฐกิจ
และในกลางเดือน พ.ค.53 สถาบันจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส จะเข้ามาเก็บข้อมูลเพื่อทบทวนเครดิตของประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความกังวลต่อเครดิตประเทศที่อาจปรับลดลงได้ และจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลที่สูงขึ้น