สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเดือนเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) โดยเป็นการปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันก่อน หลังรัฐบาลในประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีมติช่วยเหลือกรีซแก้ปัญหาหนี้สินภายในประเทศ และความเคลื่อนไหวดังกล่าวกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินยูโร
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ แตะที่ระดับ 1,162.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,158.50 - 1,170.70 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.414 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.3 เซนต์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,739.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 524.15 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.55 ดอลลาร์
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับปัจจัยบวกจากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่มีมติจัดสรรเงินกู้ช่วยเหลือกรีซเป็นวงเงินรวมมูลค่าสูงถึง 4.5 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด ซึ่งมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินของกรีซและเพื่อกอบกู้ความกู้ความเชื่อมั่นในยุโรป
ทั้งนี้ ในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซระบุว่า รัฐบาลในกลุ่มยุโรปจะปล่อยวงเงินกู้ประเภท 3 ปีให้กรีซมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโรในปีนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% ซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีในปัจจุบันของกรีซที่ระดับ 6.98% ส่วนอีก 1.5 หมื่นล้านยูโรจะมาจากไอเอ็มเอฟ
โดยขณะนี้รัฐบาลกรีซกำลังเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่มากที่สุดในกลุ่มอียู และต้องระดมเงินให้ได้ราว 2 หมื่นล้านยูโรเพื่อรองรับพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนเม.ย.และพ.ค. ขณะที่สถาบันจัดอันดับเครดิต ฟิทช์ เรทติงส์ ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลงอีกสองขั้นมาอยู่ที่ระดับ BBB- เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมคงแนวโน้มเครดิตเป็นลบ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับทบทวนลงอีก และจะทำให้อันดับเครดิตของกรีซร่วงลงสู่ระดับขยะ
อย่างไรก็ตาม นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เชื่อมั่นว่า เรื่องผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับกรีซ ซึ่งการที่นายทริเชต์ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้เพราะต้องการจะลดกระแสความวิตกกังวลของตลาดเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ