ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ยูโรแข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขานรับยุโรปคลอดแผนช่วยกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 13, 2010 08:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินยูโรเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่มีมติช่วยเหลือกรีซแก้ปัญหาหนี้สินภายในประเทศ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.64% แตะที่ 1.3583 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3496 ดอลลาร์/ยูโร นอกจากนี้ค่าเงินยูโรบวกขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับเงินเยน แตะที่ 126.62 เยน/ยูโร จากระดับ 125.78 เยน/ยูโร

นอกจากนี้ เงินยูโรยังแข็งค่าขึ้น 0.10% เมื่อเทียบฟรังค์สวิส แตะที่ 1.4399 ฟรังค์/ยูโร จากระดับ 1.4384 ฟรังค์/ยูโร และเดินหน้าขึ้น 0.70% เมื่อเทียบเงินปอนด์ แตะ 0.8836 ปอนด์/ยูโร จากระดับ 0.8775 ปอนด์/ยูโร

ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.210 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 93.150 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนค่าลง 0.48% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0600 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0651 ฟรังค์/ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ขยับลงเล็กน้อย 0.03% อยู่ที่ 1.5369 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5373 ดอลลาร์/ปอนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

สำหรับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.51% แตะที่ 0.9282 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9330 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.54% แตะที่ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7157 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ทั้งนี้ สกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยบวกจากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่มีมติจัดสรรเงินกู้ช่วยเหลือกรีซเป็นวงเงินรวมมูลค่าสูงถึง 4.5 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด ซึ่งมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินของกรีซและเพื่อกอบกู้ความกู้ความเชื่อมั่นในยุโรป

โดยในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซระบุว่า รัฐบาลในกลุ่มยุโรปจะปล่อยวงเงินกู้ประเภท 3 ปีให้กรีซมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโรในปีนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% ซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีในปัจจุบันของกรีซที่ระดับ 6.98% ส่วนอีก 1.5 หมื่นล้านยูโรจะมาจากไอเอ็มเอฟ

ขณะนี้รัฐบาลกรีซกำลังเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่มากที่สุดในกลุ่มอียู และต้องระดมเงินให้ได้ราว 2 หมื่นล้านยูโรเพื่อรองรับพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนเม.ย.และพ.ค. ขณะที่สถาบันจัดอันดับเครดิต ฟิทช์ เรทติงส์ ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลงอีกสองขั้นมาอยู่ที่ระดับ BBB- เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมคงแนวโน้มเครดิตเป็นลบ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับทบทวนลงอีก และจะทำให้อันดับเครดิตของกรีซร่วงลงสู่ระดับขยะ

อย่างไรก็ตาม นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เชื่อมั่นว่า เรื่องผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับกรีซ ซึ่งการที่นายทริเชต์ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้เพราะต้องการจะลดกระแสความวิตกกังวลของตลาดเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ