ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลังยอดค้าปลีก-ผลประกอบการสดใสกระตุ้นนักลงทุนลดถือครองดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 15, 2010 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าเทรดในตลาดที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด และบริษัทเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3656 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3606 ยูโร/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 93.190 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.210 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.62% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.5470 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.5375 ปอนด์/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.23% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0514 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0538 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.66% แตะที่ 0.9347 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.9286 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.07% แตะที่ 0.7135 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7130 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐและแห่เข้าเทรดในตลาดที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.6% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคสหรัฐมีการใช้จ่ายมากขึ้น

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันหลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และอินเทล คอร์ป รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ เจพีมอร์แกนยังวางแผนที่จะจ้างงานเพิ่ม 9,000 คนในสหรัฐ และอินเทลได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2553

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นด้วยการปรับเพิ่มค่ากลางของดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัว 32.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงเกินคาด

ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐอย่างหนักมาจากการที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า เขาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะขยายตัว พร้อมกับยืนยันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะส่งผลให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ไม่น่าดึงดูดใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ