"เบอร์นันเก้"คาดเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวดีขึ้น แต่แนะรัฐบาลเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณ

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 15, 2010 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐต้องเร่งใช้มาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณ เบอร์นันเก้กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นและคาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัวในอัตรา 5.6% ต่อปี ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้เฟดยังสามารถคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า การเสริมสร้างสถานะการคลังให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนในระยะยาวถือเป็นงานท้าทายของรัฐบาลสหรัฐ โดยเบอร์นันเก้คาดว่าสหรัฐจะมียอดขาดดุลงบประมาณในปีนี้สูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากรายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง รวมทั้งการที่รัฐบาลได้นำเงินคงคลังไปใช้จ่ายในการกอบกู้เศรษฐกิจ สร้างงาน และสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน

การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้สอดคล้องกับที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่า อันดับความน่าเชื่อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในอนาคต หากรัฐบาลไม่เร่งใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวตอบโต้ในเวลาต่อมาว่า สหรัฐไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงจนถึงขั้นที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA แม้คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐอาจจะสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2553 ก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ