กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. หรือคิดเป็น 1.3% มาอยู่ที่ระดับ 8.775 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ
อย่างไรก็ดี จีนยังคงเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐ รองลงมาคือญี่ปุ่นที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐทั้งสิ้น 7.685 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 0.4% จากระดับของเดือนม.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ยอดซื้อสุทธิหลักทรัพย์ระยะยาวจากต่างชาติ ซึ่งรวมถึงตราสารหนี้เอกชนและพันธบัตรรัฐบาล คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4.71 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดซื้อสุทธิหลักทรัพย์ระยะยาวจากต่างชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.พ.นับเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่า ต่างชาติยังคงให้ความสนใจหลักทรัพย์ของสหรัฐ