นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานด้านเศรษฐกิจกลับไปประเมินผลกระทบที่ได้รับจากการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างเต็มที่
"นายกฯ ได้กำชับแนวทางในช่วงที่มีเหตุการณ์ โดยให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจประเมินในระยะเวลาอันสั้น ช่วงที่มีการชุมนุมว่ามีผลกระทบอย่างไร ส่วนใดบ้าง...นายกฯ กำชับว่าให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่ แก้ไข และประคับประคองเศรษฐกิจต่อไป" นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ส่วนงานด้านอื่นๆ นั้น นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับที่ประชุมครม.เศรษฐกิจจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดโครงการประกันรายได้เกษตรกร การให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามภาวะราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค และเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการลงทุนต่างๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวไปตรวจสอบการเข้าพักของนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย
นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้รายงานสถานการณ์ด้านการเงิน โดยในช่วงที่ผ่านมาค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงการชุมนุมทางการเมือง ล่าสุดเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามค่าเงินของสกุลเงินในภูมิภาค จากข่าวการปรับค่าเงินหยวนและการปรับนโยบายทางการเงินของสิงคโปร์ โดยในช่วงไตรมาส 1/53 เงินบาทแข็งค่าสุดที่ 32.21 บาท/ดอลลาร์
ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงนั้นไม่ได้วิเคราะห์มาจากการชุมนุมเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยจากส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น การไหลของเงินทุนต่างประเทศ รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ตัวเลขการลงทุนย้ายไปยังลงทุนในกลุ่มพันธบัตรบ้าง แต่ในส่วนอื่นๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในภาวะปกติ