จาง หลี่ฉุน นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์วิจัยการพัฒนาของรัฐบาลจีน กล่าวว่า การส่งออกที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งมีบทบาทหลักที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวถึง 11.9% ต่อปี ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
นายจางได้เขียนบทความตีพิมพ์ลงในไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัลว่า การส่งออกที่ทะยานขึ้น 28.7% มีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของจีนขยายตัวในสัดส่วนมากกว่า 3.44% ในทางกลับกันการส่งออกที่หดตัวในไตรมาสแรกของปีที่แล้วได้ฉุดอัตราการขยายตัวของจีดีพีในช่วงเวลาดังกล่าวลง 3.35%
ขณะเดียวกัน ความต้องการภายในประเทศกลับมีบทบาทลดลงต่อการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรก โดยนายจางกล่าวว่า ความต้องการภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงการบริโภคและการลงทุน คิดเป็น 8.46% ของอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสแรกปีนี้ เทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 9.45%
นายจางกล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนยังไม่ถือว่าขยายตัวอย่างยั่งยืน เนื่องจากความต้องการภายในประเทศยังคงต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ภาคการส่งออกก็อาจไม่สามารถรักษาอัตราการขยายตัวได้รวดเร็วเหมือนกับไตรมาสแรก
นายจางกล่าวว่า จีนจำเป็นต้องผลักดันการบริโภคภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ด้วยการปรับเรื่องการกระจายรายได้และการเดินหน้าพัฒนาเขตเมือง นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวของเศรษฐกิจไปพร้อมๆกันเพื่อการขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว