นักวิเคราะห์คาดจีนจะมีเม็ดเงินเก็งกำไรหลั่งไหลเข้าประเทศเป็นจำนวนมากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับการปรับค่าเงินหยวนและการเปลี่ยนแปลงราคาสินทรัพย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างการเปิดเผยของจาง หมิง นักวิจัยจากสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนที่คาดการณ์ว่า จีนจะมีเม็ดเงินเก็งกำไรเข้ามาราว 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าเม็ดเงินลักษณะนี้จะหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ไตรมาสแรก โดยมองว่า เม็ดเงินเก็งกำไรที่หลั่งไหลเข้ามามากขึ้นเป็นผลจากปัจจัยด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างจีนและสหรัฐ รวมถึงกระแสคาดการณ์การแข็งค่าของเงินหยวน และการเปลี่ยนแปลงราคาสินทรัพย์
ทั้งนี้ การซื้อขายสัญญาเงินล่วงหน้าแบบไม่มีการส่งมอบ (Non-deliverable Forwards หรือ NDF) ระยะ 1 ปีของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินหยวนนั้นพุ่งแตะที่ 6.6050 หยวนในระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยระดับการซื้อขายสัญญาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นักวิเคราะห์จะยังคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ในการปรับค่าเงินหยวน
ด้านเจพี มอร์แกน เชส คาดการณ์ว่า มูลค่าเงินหยวนอาจแข็งค่าขึ้นในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม ขณะที่ธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) มองว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ชี เล่ย นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ ไชน่า เชื่อว่า มูลค่าของเงินหยวนจะยังไม่พุ่งสูงขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับเงินหยวนที่มีเสถียรภาพซึ่งมีส่วนช่วยควบคุมเม็ดเงินเก็งกำไรจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศ และยังส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ส่งออกของจีน